เจริญจิตภาวนาบูชาพระธาตุ พร้อมร่วมบุญปีใหม่ ให้ทานไฟเมืองนคร 2554 ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
ยิ่งทำ ยิ่งได้ ยิ่งให้ยิ่งได้รับ สวนสร้างสรรค์นาคร – บวรรัตน์และธรรมภาคีจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับชมรมรักบ้านเกิด โดยการสนับสนุนจากเทศบาลนครนครศรีธรรมราช การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครศรีธรรมราช และมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ลั่นระฆังใจฟื้นฟูวัฒนธรรม ตอกย้ำเอกลักษณ์ประเพณีครั้นสมัยพุทธกาล โดยการจัดงาน “บุญปีใหม่ ให้ทานไฟเมืองนคร” พร้อมการเจริญจิตภาวนา บูชาพระธาตุและอานาปานสติข้ามปี เบื้องหน้าพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร รับอรุณด้วยบุญปีใหม่ ให้ทานไฟเมืองนคร
นายสุเทพ เกื้อสังข์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานนครศรีธรรมราช ชี้แจงว่านับวันการท่องเที่ยวเชิงพุทธได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งตลาดคนไทยและตลาดเอเชีย เพราะทุกคนต่างมุ่งแสวงหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ มุ่งสู่กายใจบำบัด เป็นการท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้ผู้อื่นและย้อนกลับมามองตนเองอย่างเข้าใจความเกี่ยวพันของสิ่งต่างๆ ในโลกที่มีความเกี่ยวโยงพึ่งพาประเพณีให้ทานไฟ ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรม เป็นกิจกรรมต้นแบบของศูนย์กลางแห่งพุทธศาสนา ประเพณีให้ทานไฟเป็นการถวายความอบอุ่นด้วยการก่อกองไฟและปรุงอาหารร้อน ๆ และมีการทำขนมพื้นบ้านง่าย ๆ ที่ทำเสร็จภายในเวลาอันรวดเร็วถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ ได้แก่ ขนมเบื้อง ขนมครก ขนมกรอก ขนมจู่จุน กล้วยแขก ข้าวเหนียวกวน ขนมกรุบ ข้าวเกรียบปากหม้อ เป็นต้น แล้วนำมาถวายพระภิกษุสงฆ์ในตอนเช้าที่มีอากาศหนาวเย็น
โดยมีกำหนดการดังนี้
31 ธันวาคม 2553
19.00 น. – เสวนาธรรม ณ ลานโพธิ์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
21.00 น. – เจริญจิตภาวนาบูชาพระธาตุ ณ วิหารหลวง วัดพระธาตุวรมหาวิหาร
1 มกราคม 2554
04.00 น. – เริ่มก่อกองไฟ ณ ลานข้างพระพุทธบาทจำลอง
05.30 น. – พิธีให้ทานไฟ
06.00 น. – ทำบุญตักบาตรปีใหม่ ณ บริเวณหน้าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
ผู้อำนวยการกล่าวในตอนท้ายว่า การเป็นคนดีที่รู้จักให้สำคัญกว่าทุกสิ่ง โดยเฉพาะการให้อภัยและฟื้นฟูจิตใจให้ดีงาม จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมบุญโดยการ “หาฟืนเข้าวัด” ตลอดถึงการมีส่วนร่วมกันทำขนมกับคนใจบุญ เรียกว่า ร่วมเป็น ภัตตากรณ์ โดยนิมนต์พระ ๘๓ รูป ต้อนรับศักราชใหม่ในปีกระต่าย พร้อมเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ อิ่มบุญ อุ่นใจ ในงานเทศกาลบุญปีใหม่ ให้ทานไฟเมืองนคร ศรัทธาแห่งชีวิต จิตวิญญาณ ด้วยย่างก้าวสู่ความเป็นเมืองมรดกโลก พร้อมรณรงค์นุ่งผ้าถุง คาดผ้าซัก