เที่ยวอเมริกา ในสภาวะแช่แข็ง!

วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจ สำหรับใครก็ตามที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวอเมริกา ในภาวะที่สหรัฐฯ กำลังแช่แข็งประเทศอยู่ในขณะนี้ โดยจะไปดูกันว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใดบ้างที่ปิดหรือไม่ปิด และนักท่องเที่ยวที่ซื้อแพ็คเกจทัวร์ไปก่อนหน้านี้ จะได้รับผลกระทบอย่างไร

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในขณะนี้สหรัฐฯ กำลังเผชิญกับภาวะ “แช่แข็ง” ประเทศ หรือ Government Shutdown อันเป็นผลมาจากการที่สมาชิกสภาคองเกรส ทั้ง ส.ส. และ ส.ว.ไม่สามารถตกลงกันเรื่องร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ จนเลยขีดเส้นตายที่กำหนดเอาไว้ว่าเป็นวันที่ 1 ตุลาคม ส่งผลให้งบประมาณในการใช้จ่ายในภาครัฐถูกตัดทั้งหมด และพนักงานรัฐกว่า 800,000 คน ได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากถูกพักงานชั่วคราว สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ทำให้หลายคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยว ที่กำลังเดินทางไปสหรัฐฯ กังวลเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อเดินทางไปถึงแล้ว พวกเขาจะเที่ยวที่ไหนได้บ้างและมีที่ไหนที่ยังเปิดให้บริการ หรือที่ไหนที่ปิดให้บริการเป็นการชั่วคราว วันนี้เรามีคำตอบ

สถานที่ท่องเที่ยวที่ปิดให้บริการอย่างแน่นอน และอาจทำให้นักท่องเที่ยวผิดหวังแบบสุดๆ เมื่อเดินทางไปถึง นั่นก็คือ อุทยานแห่งชาติทั่วทั้งสหรัฐฯ กว่า 401 แห่ง.. ตั้งแต่อุทยานแห่งชาติเยลโล่ สโตน ในมลรัฐไวโอมิง ไปจนถึงเทพีเสรีภาพ ในมหานครนิวยอร์ก ส่วนพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรี อีก 19 แห่ง.. ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของสถาบันสมิธโซเนียนในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ หรือชาวอเมริกันเองต่างก็ใฝ่ ฝันว่าอยากจะมาเยือนสักครั้งในชีวิต ก็ปิดทำการเช่นเดียวกัน

ที่ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบหนักสุด ก็คงจะเป็นการท่องเที่ยวตามอุทยานแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นไฮไลท์เด็ดของการท่องเที่ยวในสหรัฐฯ เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ที่ซื้อแพ็คเกจทัวร์ท่องเที่ยวสหรัฐฯ ก็มักจะมีสถานที่ท่องเที่ยวตาม ธรรมชาติเหล่านี้ พ่วงเข้ามาในแพ็คเกจด้วยเสมอ ซึ่งอุทยานแห่งชาติที่ปิดแล้วทำให้นักท่องเที่ยวเสียใจแบบสุดๆ นอกจากอุทยานแห่งชาติเยลโล่ สโตนแล้ว ก็ยังมีอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย และ แกรนด์ แคนยอน สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ตั้งอยู่ในมลรัฐแอริโซนา ที่ถือเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มากที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ เพราะแค่แกรนด์แคนยอนที่เดียวก็มีนักท่องเที่ยวมาเยือนโดยเฉลี่ยวันละกว่า 18,000 คนแล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า แกรนด์ แคนยอน ในส่วนที่เป็นเขตอุทยานแห่งชาติจะปิดทำการ และนักท่องเที่ยวจะไม่สามารถเข้าไปประกอบกิจกรรมอย่างการเดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติ หรือปั่นจักรยาน รวมถึงเข้าไปตั้งแคมป์ได้ แต่ส่วนที่เป็น Grand Canyon Skywalk ทางเดินกระจกรูปเกือกม้า ซึ่งตั้งอยู่บนชะง่อนผาความสูง 1,450 เมตร ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ดังนั้น ใครที่สนใจสามารถเดินทางไปเที่ยวชมแกรนด์ แคนยอนในมุมสูงได้ที่ Grand Canyon Skywalk แห่งนี้

สิ่งที่น่ากังวลใจอีกอย่างหนึ่งของผู้ที่ซื้อแพ็คเกจทัวร์อเมริกา ที่เหมารวมถึงการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเหล่านี้ ก็คือ บริษัททัวร์ทั้งหลายอาจจะไม่คืนเงินให้กับผู้ที่ซื้อทัวร์ แต่อาจจะเสนอแพ็คเกจท่องเที่ยวแบบอื่นให้แทน แม้ว่านักท่องเที่ยวคนนั้น จะจองที่พักหรือโรงแรม ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติที่ถูกปิดทำการก็ตาม โดยให้เหตุผลว่า “การคืนเงินตอนนี้กระชั้นชิดเกินไป แต่สำหรับผู้ที่จองทัวร์ในระยะเวลาไม่กระชั้นชิดมากนัก เช่น เดินทางมาปีหน้า หรือในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ทางบริษัทก็จะพิจารณาคืนเงินให้ หากว่าลูกค้าต้องการ หรือมิเช่นนั้น ลูกค้าก็อาจเลื่อนวันเดินทางออกไปก่อน ตามแต่ความสะดวก”

ขณะที่โฆษกขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวของสหรัฐฯ ก็แสดงความเห็นว่า “นักท่องเที่ยวควรอาศัยโอกาสนี้ ในการเดินทางไปท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ของสหรัฐฯ ที่ยังคงเปิดให้บริการ เพื่อสัมผัสกับมุมมองใหม่ๆ เช่น สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองต่างๆ รวมถึงเขตอนุรักษ์ของชนเผ่าอินเดียนแดง ที่ยังคงเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวตามปกติ”

ขอบคุณข้อมูลจาก voicetv