Atomic Bomb Dome chugoku hiroshima Hiroshima Orizuru Tower Katsuyama Kibitsu Shrine korakuen Kurashiki Bikan miyajima okayama Ōkunoshima Island Yamaguchi คัตสึยามะ คุระชิกิบิคัง ภูมิภาคชูโงะคุ ยะมะงุชิ ศาลเจ้า อิทสึคุชิมะ ศาลเจ้าคิบิสึ สวนโคราคุเอน ฮิโรชิมะ ฮิโรชิม่า เกาะกระต่าย เกาะมิยะจิมะ เกาะโอคุโนะชิมะ เที่ยวญี่ปุ่น เที่ยวฮิโรชิมา โอคะยะมะ โอะริซึรุ ทาวเวอร์

หลงเสน่ห์ “ชูโงะคุ” ท่องเมืองเก่าญี่ปุ่น กับจุดเช็คอินที่ต้องไปให้ครบ

Home / ท่องเที่ยวรอบโลก / หลงเสน่ห์ “ชูโงะคุ” ท่องเมืองเก่าญี่ปุ่น กับจุดเช็คอินที่ต้องไปให้ครบ

ภูมิภาคชูโงะคุ (Chugoku) ประกอบไปด้วย 5 จังหวัดได้แก่ โอคะยะมะ (Okayama), ฮิโรชิมะ (Hiroshima), ยะมะงุชิ (Yamaguchi), ชิมาเนะ (Shimane) และ ทตโทริ (Tottori) ซึ่งทั้ง 5 จังหวัดนี้อยู่ตรงกลางระหว่างภูมิภาคคิวชู (จ.ฟูกูโอกะ)และคันไซ (จ.โอซาก้า)

หลงเสน่ห์ “ชูโงะคุ” ท่องเมืองเก่าญี่ปุ่น

กับจุดเช็คอินที่ต้องไปให้ครบ

แต่ทว่าภูมิภาคชูโงะคุนี้ เมื่อเราไปสัมผัสกลับพบว่าเป็นอีกหนึ่งภูมิภาคที่น่าเที่ยวมากๆ เราหลงเสน่ห์กลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเข้าแล้วไง ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตชาวพื้นเมือง อาหาร รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆที่น่าสนใจ จนทำให้คิดว่ามาเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว ก็ต้องกลับมาอีกแน่นอน!

ปราสาทโอคะยะมะ จ.โอคะยะมะ

(Okayama Castle)

ปราสาทโอคะยะมะ
ปราสาทโอคะยะมะ

ปราสาทโอคะยะมะ หรือ เรียกอีกอย่างว่า ปราสาทอีกา เพราะสีของตัวปราสาทนั้นเป็นสีเทาดำ คล้ายกับสีของปีกอีกา หลังถูกทำลายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้ปรับปรุงบูรณะใหม่จากไม้ให้เป็นคอนกรีตทั้งหลัง จุดเด่นของปราสาทแห่งนี้คือตัวปราสาททั้ง 5 เหลี่ยมนั้นไม่เท่ากัน เมื่อถ่ายรูปออกมาในแต่ละด้านก็จะได้รูปที่สวยงามแตกต่างกัน ด้านในปราสาทมีทั้งหมด 6 ชั้น ซึ่งชั้น 1-4 นั้นเป็นที่แสดงของเก่า ศิลปะวัฒนธรรมต่างๆ เช่น การปั้นดินเผา, ที่นั่งแคร่สมัยก่อน รวมไปถึงร้านขายของฝาก ส่วนชั้น 5-6 นั้นเป็นจุดชมวิวที่มองไปรอบๆจะเห็นสวนโคราคุเอน (Korakuen Garden) ที่สวยงามมากๆ แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และยังได้รับรางวัล 3 ดาวจากมิชลินกรีนไกด์อีกด้วย ผู้สร้างปราสาทแห่งนี้ชื่อ Ukuta hiddie

วิวสวนโคราคุเอน
สวนโคราคุเอน มองเห็นปราสาทโอคะยะมะ

ค่าเข้าชมปราสาท: 300 เยน
ที่ตั้ง: ปราสาทโอคะยะมะ (Okayama Castle) และสวนโคราคุเอน

ศาลเจ้าคิบิสึ จ.โอคะยะมะ

 (Kibitsu Shrine)

ทางเข้าศาลเจ้าคิบิสึ

ศาลเจ้าคิบิสึ ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า สมัยก่อนมียักษ์ชื่ออุระ (Ura) ไล่ทำร้ายชาวบ้านก่อความไม่สงบสุข ต่อมาเทพเจ้าคิบิสึได้ร่วมมือกับ สุนัข นก ลิง มาช่วยกันขับไล่ยักษ์อุระ และปราบรามยักษ์ให้สงบลงในที่สุด จนกลายเป็นต้นกำเนิดโมโมทาโร่ นิทาน(ที่ออกมาจากลูกพีช)อันโด่งดังของญี่ปุ่น ซึ่งเทพเจ้าคิบิทสึนี้มีอายุยืนยาวมาก ประมาณ 200กว่าปี ทำให้ชาวญี่ปุ่นเชื่อเรื่องการขอพรเกี่ยวกับอายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรง

วิธีไหว้เทพเจ้า: โยนเหรียญทำบุญแล้ว โค้งคำนับ 2 ครั้ง ตบมือ 2 ครั้งเพื่อเรียกเทพเจ้าพร้อมกับพูดชื่อตนเองเพื่อขอพร เสร็จแล้วโค้งคำนับ 2 ครั้ง

อาคารดำ มีรูปหมูป่า
เดินลาดยาว 360 เมตร

ภายในบริเวณศาลเจ้ามีอาคารดำ มีรูปหมูป่า เป็นอาคารหลักในการบูชาเทพเจ้ามีจั่ว 2 อันประกอบกันเป็นหลังคา 4 ด้าน อายุประมาณ 600 กว่าปี เมื่อเดินเข้าไปด้านในจะเจอกับทางเดินลาดยาว 360 เมตร ซึ่งสวยงามมาก

เวลาเปิดปิด: 05.00 – 18.00 น.
ที่ตั้ง: ศาลเจ้าคิบิสึ (Kibitsu Shrine)

เขตอนุรักษ์เมืองเก่าคัตสึยามะ จ.โอคะยะมะ

(Katsuyama Historical Preservation District)

ย่านเมืองเก่าแห่งนี้ เมื่อมาถึงจะสังเกตุได้ง่ายคือ แทบทุกบ้านจะมีผ้าม่านญี่ปุ่น (โนแร) แขวนอยู่หน้าบ้าน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดสีสันสวยงามและมีมานานกว่า 20 ปีแล้ว ตัวบ้านและร้านค้าจะเป็นทรงญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เดินถ่ายรูปสวยๆเพลินๆได้ทุกมุม คนที่มาเที่ยวยจ้านคัตสึยามะแล้วอย่าลืมซื้อ “สาเกโกเมนชุ” ติดไม้ติดมือกันกลับไปด้วยนะคะ เพราะชาวบ้านที่นี่ทำเองในแบบฉบับดั้งเดิม รสชาตินุ่ม บางตัวผสมเมลอนไปหอมมากๆ

เวลา: แนะนำให้มาช่วงวันเสาร์อาทิตย์ เวลา 11 โมงเป็นต้นไป
ที่ตั้ง เขตอนุรักษ์เมืองเก่าคัตสึยามะ  (Katsuyama Historical Preservation District)

ย่านประวัติศาสตร์ คุระชิกิบิคัง จ.โอคะยะมะ

(Kurashiki Bikan Historical Quarter) 

เมืองเก่าแห่งนี้มีตึกและโกดังเรียงรายกันสองข้างทาง ตรงกลางมีแม่น้ำคุระชิกิ สมัยก่อนใช้ในการขนส่งสินค้าต่างๆ ปัจจุบันมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของฝากเรียงรายสองข้างทาง เดินเล่นเพลินมากๆ ส่วนใครที่อยากนั่งเรือชมวิวทิวทัศน์ก็ประทับใจไม่น้อย หากมาที่คุระชิกิบิคังแล้ว แนะนำให้ซื้อขนมมุระสุเซมิ (Murasuzume) ลักษณะคล้ายแป้งแพนเค้กห่อด้วยถั่วแดง

ขนมมุระสุเซมิ (Murasuzume)ที่ว่ามาแล้วต้องชิม

ที่ตั้ง: ย่านประวัติศาสตร์ คุระชิกิบิคัง (Kurashiki Bikan Historical Quarter)

วัดเซนโคจิ จ.ฮิโรชิมะ

(Senkoji Temple)

วัดเซนโคจิ

นั่งกระเช้าขึ้นไปบนวัดเซนโคจิ

วัดเซนโคจิ ตั้งอยู่ที่เมืองโอโนมิจิ (Onomichi) จ.ฮิโรชิมะ (Hiroshima) เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนภูเขา ด้านบนจะมีทั้งสวนสาธารณะและวัด วิธีการขึ้นมี 2 แบบคือ เดิน หรือ นั่งกระเช้า ขึ้นไป สำหรับการมาครั้งนี้เราเลือกนั่งกระเช้าขึ้นไป และค่อยๆเดินชมวิวลงมา เมื่อขึ้นไปแล้วจะถึงจุดชมวิวหอคอยที่มองลงมาแล้วสวยงามมากๆ เห็นเมืองโอโนมิจิทั้งเมืองเลย

หอคอยจุดชมวิวเมือง
ชมวิวเพลินๆ บรรยากาศดีมากๆ

เมื่อเดินลงมาจะผ่านวัดเซนโคจิ ผู้คนนิยมมากราบไหว้ขอพรกันอย่างเนืองแน่น ใครที่ต้องการซื้อเครื่องราง ของขลังก็หาซื้อได้ที่วัดเซนโคจิได้เช่นกัน

ซอยแมวเดิน
ซอยแมวเดิน หรือ ตรอกแมว

หลังจากนั้นเดินต่อลงมาเพื่อมายังถนน จะผ่าน “ซอยแมวเดิน” เป็นชื่อที่ชาวบ้านตั้งขึ้น เพราะระหว่างทางจะเจอแมวเดินไปมาหลายตัว จึงทำให้มีคาเฟ่แมวอยู่เป็นระยะ รวมไปถึงการวาดลวดลายหน้าแมวลงบนพื้นถนน หรือ ตามกำแพงบ้านด้วย

ค่านั่งกระเช้า: นั่งทั้งไป-กลับ ราคา 500 เยน, นั่งขาเดียว 320 เยน
เวลาเปิดปิด: 9.00-17.15 น.
แผนที่ วัดเซนโคจิ

เกาะโอคุโนะชิมะ หรือ เกาะกระต่าย

(Ōkunoshima Island)

ด้วยพื้นที่รอบๆเกาะประมาณ 4.3 กิโล ไม่น่าเชื่อว่าจะมีกระต่ายน่ารักๆเป็นร้อยๆพันๆตัว วิ่งเล่นไปมา แถมเชื่อง ไม่กลัวคนซะด้วย แต่ที่น่ารักไปกว่านั้นคือ เจ้ากระต่ายเค้าไม่ได้กรูมาหาเราแบบน่ากลัว นอกจากเราจะมีอาหารแล้วส่งเสียงเรียกเค้า เค้าถึงจะวิ่งมาหาเพราะอย่างที่ทราบกันว่า กระต่ายใช้หูในการฟังเสียงและบังคับทิศทาง สาเหตุที่เกาะโอคุโนะชิมะมีกระต่ายเยอะเพราะเล่ากันมาว่า เมื่อก่อนมีโรงเรียนประถมที่เลี้ยงกระต่ายไว้ และในที่สุดโรงเรียนจะถูกปิดตัวลงเมื่อก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่2 จึงต้องปล่อยกระต่ายไว้บนเกาะแห่งนี้ 8 ตัว จนปัจจุบันมีถึงพันกว่าตัวแล้ว

ระหว่างนั่งรอขึ้นเรือ

วิธีการเดินทาง: นั่งเรือเฟอร์รี่ประมาณ 15 นาที ที่ท่าเรือทาดะโนะอุมิ (Tadanoumi Port)
ที่ตั้ง เกาะโอคุโนะชิมะ (Ōkunoshima Island)

ปราสาทฮิโรชิมะ จ.ฮิโรชิมะ

(Hiroshima Castle)

มาถึงไฮไลท์อีกหนึ่งแห่ง นั่นก็คือ ปราสาทฮิโรชิมะ หรือเรียกอีกอย่างว่า ปราสาทปลาคาร์ป เพราะมีปลาคาร์ปเยอะมากจริงๆ เมื่อมาถึงเราก็นั่งเรือชมความงามของปราสาทภายนอกก่อน ซึ่งปราสาทแห่งนี้โดนระเบิดช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งหลัง จึงต้องบูรณะฟื้นฟูใหม่ทั้งหมด ด้านในมีทั้งหมด 5 ชั้น ชั้นบนสุดเป็นจุดชมวิวเมืองฮิโรชิมะ ด้านในนั้นห้ามถ่ายรูป เราจึงเอาบรรยากาศรอบๆปราสาทมาฝากแทน

ปราสาทฮิโรชิมะ หรือ ปราสาทปลาคาร์ป
วิวจากชั้น 5 ของปราสาทฮิโรชิมะ

ที่ตั้ง ปราสาทฮิโรชิมะ (Hiroshima Castle)

 Atomic Bomb Dome และ

สวนสันติภาพ จ.ฮิโรชิมะ

โดมปรมาณูแห่งนี้เป็นเหมือนอนุสรณ์สถานของชาวญี่ปุ่น ที่เคยได้รับผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ทว่า ณ ตอนนี้มีแต่ความงดงาม แต่ก็ยังมีซากปรักหักพังหลงเหลือให้ชม ซึ่งตอนที่โดนระเบิดนั้นมีคนเสียชีวิตไปกว่า 2 แสนคนเลยทีเดียว เพราะรัศมีของระเบิดประมาณ 3.5 กิโล และเป็นเวลาช่วงเช้าประมาณ 8.15 ของวันที่ 6 สิงหาคม ปี ค.ศ. 1945 ซึ่งเป็นเวลาที่คนออกมาทำงานกัน และมีสถาปนิกชาวเช็กเป็นผู้ออกแบบโดมแห่งนี้

ที่ตั้ง:  Atomic Bomb Dome และสวนสันติภาพฮิโรชิมะ

จุดชมวิวดาดฟ้า ฮิโรชิมะ โอะริซึรุทาวเวอร์ จ.ฮิโรชิมะ

(Hiroshima Orizuru Tower)

จากจุดชมวิวชั้นดาดฟ้า มองลงมาเห็น Atom Bomb โดมเลย

จากโดมปรมาณูนั้น เดินมาไม่เกิน 5 นาทีจะพบตึก ฮิโรชิมะ โอะริซึรุ (Hiroshima Orizuru Tower) หรือตึกชมวิวเมืองนั่นเอง เราขึ้นไปที่ชั้น 13 สามารถชมวิวความงดงามของเมืองฮิโรชิมะได้แบบ 360 องศา แถมยังมีที่นั่งทำเป็นโดมใส เอาไว้นั่งทานกาแฟ หรือ ย่างมัชเมลโล่ทานพร้อมชมวิวเมืองได้อีกด้วย การชมวิวเมือง ณ มุมสูงแบบนี้ ทำให้ใจเราจินตนาการไปไกลแสนไกล ลมพัดเย็นๆนั่งเพลินเลยทีเดียว ด้านในตึกมีมุมให้พับนกกระเรียนกระดาษ และปล่อยลงมา ณ จุดปล่อยนกภายในตึก พร้อมอธิษฐานเพื่อให้เกิดสันติภาพความสงบสุข

ค่าเข้าชมขึ้นไปดาดฟ้าและชั้นอื่นๆ 1,700 เยน
เวลาเปิดปิด: 10.00 – 19.00 น.
ที่ตั้ง จุดชมวิวดาดฟ้า ฮิโรชิมะ โอะริซึรุ ทาวเวอร์ (Hiroshima Orizuru Tower)

ศาลเจ้า อิทสึคุชิมะ เกาะมิยะจิมะ จ.ฮิโรชิมะ

(Itsukushima Shrine, Miyajima)

เสาโทริอิสีแดงส้ม ตอนช่วงน้ำขึ้นจะเหมือนลอยอยู่ในน้ำ

น้ำขึ้น น้ำลงทุกๆ 6 ชั่วโมง

เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่เรียกว่าสุดประทับใจที่ไม่มาไม่ได้จริงๆ อย่างเกาะมิยะจิมะมีศาลเจ้าที่มีเสาโทริอิสีส้มแดงอันโดดเด่นตั้งอยู่กลางน้ำ ซึ่งโดยเหมือนลอยอยู่ในน้ำ และทุกๆ 6 ชั่วโมงจะเกิดน้ำขึ้นน้ำลง นักท่องเที่ยวสามารถเดินลงไปถ่ายรูปกับเสาโทริอิแบบใกล้ๆได้เลย ส่วนตอนช่วงน้ำขึ้นก็มีบริการนั่งเรือพาไปชมแบบใกล้ๆได้เช่นกัน อาหารขึ้นชื่อที่มาถึงแล้วต้องทานคือ หอยนางรม (Oyster) มีทั้งเผา, ทอด หรือทานสดๆ เรียงรายอยู่ตามทาง อร่อยทุกร้านเลย

เกาะมิยาจิมะ จะมี Oyster ขายอยู่ตลอดตามทางเดิน

วิธีการเดินทาง: นั่งเรือจากท่าเรือมิยะจิมะกุชิ ประมาณ 20 นาที
ค่าเรือ: 300 เยน
ที่ตั้ง: ศาลเจ้า อิทสึคุชิมะ เกาะมิยะจิมะ (Itsukushima Shrine, Miyajima)

สะพานคินไตเกียว เมืองอิวะคุนิ จ. ยะมะงุชิ

(Kintaikyo Bridge)

สะพานไม้คินไตเกียวสวยงามแปลกตา เพราะมีลักษณะเป็นโค้งๆ 5 โค้ง และยังเป็น 1 ใน 3 สะพานที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งเป็นสะพานที่ข้ามแม่น้ำคะระวะอัน เมื่อไปยืนบนสะพานสามารถมองเห็นแม่น้ำไหลเป็นทางยาวสวยงามเช่นกัน สะพานแห่งนี้ได้รับการบูรณะใหม่เมื่อ 15 ปีก่อน เหตุจากพายุไต้ฝุ่น ณ ตอนนั้น เมื่อข้ามมายังอีกฝั่งหนึ่งจะเจอร้านขายไอศกรีมซอฟเซิร์ฟซึ่งมีมากมายหลายรสชาติมาก

ค่าข้ามสะพาน: ข้ามไป-กลับ ราคา 300 เยน
ที่ตั้ง: สะพานคินไตเกียว (Kintaikyo Bridge)

ขอบคุณการเดินทางโดย องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO)