จุดชมซากุระ จุดชมซากุระยอดฮิต ซากุระ ญี่ปุ่น ดอกซากุระ ที่เที่ยวญี่ปุ่น พิกัดชมซากุระ ญี่ปุ่น ฤดูใบไม้ผลิ ญี่ปุ่น สถานที่ชมซากุระ เทศกาลซากุระบาน เที่ยวญี่ปุ่น

[รีวิว] รวมพิกัด จุดชมซากุระบาน ที่ญี่ปุ่น ไปแล้วต้องแวะ แชะภาพสวยๆ

Home / ท่องเที่ยวรอบโลก / [รีวิว] รวมพิกัด จุดชมซากุระบาน ที่ญี่ปุ่น ไปแล้วต้องแวะ แชะภาพสวยๆ

ช่วงฤดูใบไม้ผลิ เป็นเวลาที่ใครหลายคนรอคอยจะได้ไปชมดอกซากุระสีชมพูบานสะพรั่งกันที่ประเทศญี่ปุ่น วันนี้เพจ I will see the world : ชีวิตเดียวเที่ยวให้คุ้ม ก็จะมาแนะนำ ที่เที่ยวญี่ปุ่นยอดฮิต กับรวมจุดชมซากุระบาน ในเมือง  Tokyo , Shizuoka , Nagoya , Kyoto , Osaka และ Nara ให้เพื่อนๆ ตามรอยไปถ่ายภาพสวยๆ พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศสุดโรแมนติก ซึ่งในแต่ละปีก็จะออกดอกให้ชมต่างกัน ต้องเช็คให้ชัวร์กันก่อน เตรียมตัวให้พร้อมแล้วลุย!

รีวิว รวมพิกัด จุดชมซากุระบาน ที่ญี่ปุ่น

ก่อนจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว มาเรียนรู้ธรรมชาติของซากุระและกติกาในการชมเล็กๆ น้อยๆ นะคะ

  •  ซากุระที่ญี่ปุ่นสามารถชมได้ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม – กลางเดือนพฤษภาคม โดยแนวโน้มการเริ่มบานจะบานจากทางใต้ของประเทศที่อุ่นเร็วกว่า ไปทางด้านบนของประเทศ (แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับบางที่และซากุระบางสายพันธุ์ เช่นที่ Okinawa และ เมือง Kawazu ที่ จ. Shizuoka ที่จะชมได้ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมและกลางเดือนกุมภาพันธ์ตามลำดับ)
  • ช่วงที่ชมซากุระได้สวยงามจะประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น (โดยหลังจากที่เริ่มบานใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ดอกจะบานเต็มที่ หรือเรียกว่า Full Bloom และดอกจะบานได้สวยงามอีกประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ถ้ามีฝนตกก็จะสั้นกว่านั้น)
  • ดอกซากุระญี่ปุ่นมีความเปราะบางมาก แค่ลมพัดหรือโดนฝนดอกก็จะร่วงทันที เพราะฉะนั้นเป็นกฏกติกามารยาทในการชมที่คนญี่ปุ่นเค้ารู้กัน คือ ห้ามเด็ด ห้ามหัก ห้ามปีน ห้ามเขย่ากิ่งหรือต้นซากุระในที่สาธารณะโดยเด็ดขาด เพื่อให้คนอื่นได้ชื่นชมด้วย อีกทั้งปีหน้าต่อไปจะได้ชมความงามอีก เพราะดอกจะออกจากบริเวณกิ่งเดิม

1. Chidorigafuchi จังหวัด Tokyo

จุดชมซากุระยอดนิยมกลางเมืองโตเกียว สามารถชื่นชมความงามโดยการพายเรือ หรือปั่นเรือได้ด้วย

พิกัด :

วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงสถานี Kudanshita แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที

2. Inokashira Park จังหวัด Tokyo

สวนนี้อยู่ชานเมืองโตเกียวออกมาหน่อย เป็นอีกที่ที่ยอดนิยมเช่นกัน บรรยากาศดีมาก เหมาะกับการไปออกเดท และไปชมซากุระกับครอบครัวและเพื่อนฝูง

พิกัด :

วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Chuo ไปลงสถานี Kichijoji แล้วเดินต่อ

3. Nakameguro จังหวัด Tokyo

คลองแห่งนี้คับคั่งไปด้วยผู้คนในช่วงซากุระบานทั้งกลางวันและกลางคืน ใครชอบบรรยากาศแบบงานเทศกาลคึกคัก มีการออกร้าน เดินหาอะไรทานอร่อยๆ ขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดที่นี่

พิกัด : 

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงสถานี Nakameguro แล้วเดินต่อ 3 นาที

4. Negawa River จังหวัด Tokyo

ที่แห่งนี้จะ Unseen ซักหน่อย อยู่ชานเมืองออกมา แถวๆ Tachikawa เป็นอีกที่ที่แอดชอบมากที่สุดของโตเกียวเลย ช่วงวันธรรมดาคนจะน้อยมากๆ

พิกัด :

วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Shibasaki-Taiikukan แล้วเดินต่อ พิกัดที่ให้คือจุดที่สวยที่สุด ควรเดินมาให้ถึงตรงนี้ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

5. Otsuka station จังหวัด Tokyo

จุดนี้อยู่บนเส้น Yamanote จุดเด่นคือ เป็นสะพานยกระดับ ดังนั้นเราสามารถถ่ายภาพโดยมีดอกซากุระที่เบ่งบานเป็น background ด้านหลังได้

พิกัด :

วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Yamanote ลงสถานี Otsuka แล้วเดินทาง North Exit

6. Shukugawara จังหวัด Tokyo

แนวซากุระริมคลองสายเล็กๆ ที่ไหลผ่านบ้านเรือน บรรยากาศสุดชิลล์ อยู่ไม่ไกล Fujio F Fujiko Museum สามารถจัดทริปไปพร้อมกันได้เลย

พิกัด :

วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงสถานี Shukugawara แล้วเดินต่อ 1 นาที

7. Tamagawa (Gas Bridge)
จังหวัด Tokyo

เป็นอีกจุดที่ประทับใจสุดๆ เพราะมีทั้งดอกซากุระและดอก Japanese Wild Radish สีขาวบานช่วงเดียวกัน เรียกได้ว่า ฟินในฟิน วันที่ถ่ายภาพ 10 เมษายน 2017 (ปีนี้บานช้า)

พิกัด :

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงสถานี Shimomaruko แล้วเดินต่อ 15 นาที

8. Iriyamase Station (Takito Bridge)
จังหวัด Shizuoka

แนวซากุระริมคลองใกล้ๆ สถานี Iriyamase สามารถชมวิวซากุระและ Fujisan ได้พร้อมกัน และมีดง Rapeseed หรือ Nanohana สีเหลืองสดใสอยู่ด้วย

พิกัด :

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงสถานี Iriyamase แล้วเดินต่อประมาณ 15 นาที

9. Izu Kogen Station จังหวัด Shizuoka

แนวซากุระสองข้างทางตลอดความยาวหลายกิโลเมตรรอต้อนรับผู้ที่ผ่านไปเยือน

พิกัด :

วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานี Izu kogen แล้วเดินต่อ 10 นาที

10. Yamazakigawa จังหวัด Nagoya

ซากุระที่นี่สวยงามติดอันดับ 1 ใน 100 จุดชมซากุระของญี่ปุ่น มีมุมให้ถ่ายภาพมากมาย ช่วงกลางคืนช่วงซากุระบานมี Light up ด้วย

พิกัด :

วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงสถานี Mizuho Undojo Higashi แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที

11. Philosopher’s Path
จังหวัด Kyoto

เส้นทางเดินเล็กๆ ริมคลองแห่งนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาชมความงามของซากุระ ยิ่งช่วงที่ลมพัดเอากลีบซากุระร่วงลงมา เป็นภาพที่สวยงามจับใจ ตลอดทางเดินมีร้านรวงขายขนม ของที่ระลึกมากมาย ลองแวะจิบชาและขนมญี่ปุ่น ชมดอกไม้ไปด้วย เพลินจนไม่อยากไปที่อื่นเลยแอดรับรอง

พิกัด :

วิธีเดินทาง : นั่งรถ Taxi ไปจะสะดวกที่สุด หรือนั่งบัสไปลงป้าย Kinrinshakomae Bus Stop

12. Kamogawa จังหวัด Kyoto

แม่น้ำ Kamo คือแม่น้ำหลักที่ไหลผ่านกลาง Kyoto ตลอดความยาวของแม่น้ำมีต้นซากุระอยู่ตลอด แต่จุดที่อยากจะแนะนำคือ แถวๆ สถานีรถไฟ Demachiyanagi เพราะจะมีหินก้อนใหญ่รูปเต่า ให้เรากระโดดข้ามเล่นได้ด้วย

พิกัด : 

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Keihan ไปลงสถานี Demachiyanagi

13. คลองเล็กๆ แถวๆ ตรอก Pontocho
จังหวัด Kyoto

เป็นคลองเล็กๆ กลางเมือง Kyoto สวยงามทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน ละแวกนี้จะเป็นย่านกินดื่ม มีร้านอาหารมากมายให้เลือกรับประทาน จัดไว้ช่วงมื้อกลางวันหรือเย็นก็ได้

บริเวณที่ไม่ควรพลาดคือ เดินถ่ายรูปบริเวณตรอก Pontocho (แอดกะเพื่อนเรียกซอยโลกีย์) ได้บรรยากาศบ้านเรือนแบบ Kyoto สวยงามไม่แพ้ย่าน Gion แถมมีโอกาสเจอ Maiko ได้เช่นกัน

พิกัด :

:

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงสถานี Kawaramachi หรือ Gion-Shijo แล้วเดินมา 1 นาที

14. Sewaritei จังหวัด Kyoto

ทำนบกลางแม่น้ำแห่งนี้แอดจัดเป็นไฮไลท์ของ Kyoto ควรไปให้ได้ซักครั้ง(แต่แอดไปมา 3 ปีติด) เพราะบรรยากาศเหมาะกับการไปนั่งทานข้าว ชมดอกไม้เป็นที่สุด ยิ่งวันแดดออกคนจะเยอะเป็นพิเศษ

พิกัด : 

วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Keihan ไปลงสถานี Yawatashi แล้วเดินต่อ 10 นาที

15. อุโมงค์ซากุระบนทางรถไฟ Randen
จังหวัด Kyoto

อุโมงค์ซากุระบนทางรถไฟสาย Randen หรือ Keifuku Tram เวลารถรางวิ่งผ่าน กลีบจะร่วงตามแรงลม เป็นภาพที่สวยงามมากๆ

พิกัด : 

วิธีเดินทาง : นั่งรถรางไปลงที่สถานี Narutaki แล้วเดินต่อ 3 นาที

16. Gion Shirakawa จังหวัด Kyoto

ย่านนี้เป็นฉากในเรื่อง Memory of Geisha มีต้นซากุระอยู่บนถนนและเลียบคลองเล็กๆ ช่วงซากุระบานคนจะเยอะเป็นพิเศษ

พิกัด :

วิธีเดินทาง : นั่งบัสมา หรือ นั่งรถไฟสาย Keihan มาลงสถานี Gion-Shijo แล้วเดินต่อ 1 นาที

17. Romantic Train Arashiyama
จังหวัด Kyoto

นอกจากริมแม่น้ำแถวสะพาน Togetsukyo แล้ว บริเวณเส้นรถไฟ Romantic Train ยังมีมุมถ่ายรูปที่น่าสนใจ ขอเสนอมุมแรก Romantic Train คู่กับซากุระ มุมนี้ถ่ายจากชานชาลาสถานี Kameoka Torokko สุดสายของเส้น Romantic Train นั่นเอง

พิกัด :

วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปที่สถานี Kameoka Torokko

18. Uji จังหวัด Kyoto

เมืองทางตอนใต้ของ Kyoto เมืองนี้มีชื่อเสียงเรื่องชาเขียว และวัด Byodoin (วันหลังเหรียญ 10 เยน) ซากุระก็สวยงามไม่น้อย สามารถเดินชมได้ทั่วเมืองภายในครึ่งวัน อย่าพลาดชิมไอศกรีม ไม่รู้เป็นไงแอดว่ากินไอศกรีมชาเขียวที่เมืองนี้อร่อยสุดๆแล้ว ยิ่งช่วงซากุระจะมีแบบซากุระครึ่ง ชาเขียวครึ่ง คาวาอี้ไปอีก

พิกัด :

วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงสถานี Uji (มีทั้งสาย JR และ Keihan) แล้วเดินต่อ 5 นาที

19. Takenaka Inari Shrine
จังหวัด Kyoto

เป็นมุม Unseen ที่ไม่ค่อยมีคนรู้ ด้วยความสวยงามของเสาโทริอิที่สลับกับต้นซากุระที่กำลังออกดอก ทำให้ที่นี่สวยงามโดดเด่น แสดงออกถึงความเป็นญี่ปุ่นมากๆ

พิกัด :

วิธีเดินทาง : นั่ง Taxi ไปสะดวกที่สุด หรือจะเดินมาจาก Philosopher’s path ก็ทำได้ ระยะทางประมาณ 1 km เท่านั้น

20. ซากุระริมคลองส่งน้ำ จังหวัด Kyoto

จุดนี้เจอโดยบังเอิญ เป็นทางผ่านระหว่างที่แอดเดินจาก Takenaka Inari Shrine ไป Philosopher’s Path เห็นว่าสวยดีเลยแวะ คนไม่เยอะ ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย แนวซากุระไม่ยาวมาก แต่ถ่ายรูปออกมาสวยทีเดียว

พิกัด :

วิธีเดินทาง : เดินไปจาก Philosopher’s path ประมาณ 300 เมตร

21. Chushojima station
จังหวัด Kyoto

ย่านเมือง Fushimi ทางตอนใต้ของ Kyoto ที่มีชื่อเสียงในการทำเหล้าสาเก มีคลองบริเวณใกล้ๆกับสถานี Chushojima ที่มีดอกซากุระสวยงาม สามารถจัดทริปมาพร้อมกับชมซากุระที่ Sewaritei ได้

พิกัด :

แถมอีกพิกัดมุมสะพานในหนังเรื่อง Let Me Eat Your Pancreas ก็อยู่แถวๆ สถานีนี้ พิกัดคือ

วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Keihan ลงสถานี Chushojima แล้วเดินต่อ 5 นาที

22. ซากุระพันธุ์กิ่งย้อยแถวๆ Kitaoji Bridge
จังหวัด Kyoto

สำหรับใครที่มาเที่ยวโซน Kansai ช้ากว่าช่วงสายพันธุ์หลักบาน ไม่ต้องเสียใจเพราะมีที่จะแนะนำในการชมซากุระพันธุ์บานช้า ที่แรกคือ แถวสะพาน Kitaoji ริมแม่น้ำ Kamo ใกล้ๆกับสวนพฤกษศาสตร์ สวยแค่ไหนให้ภาพยืนยัน นอกจากจะได้ชมความงามของดอกซากุระแล้ว ยังได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวเกียวโตอย่างแท้จริง นั่งชิลล์ๆริมแม่น้ำ Kamo ช่วงเย็นๆหรือจะลองข้ามแม่น้ำด้วยการกระโดดไปบนก้อนหินก็น่าสนุกไม่น้อย

พิกัด :

วิธีเดินทาง : นั่งบัสไป หรือนั่งรถไฟไปลงสถานี Kitaoji แล้วเดินต่อ 5 นาที

23. Haradani-en จังหวัด Kyoto

อีกที่นึงที่อยากแนะนำสำหรับซากุระพันธุ์บานช้า คือ สวน Haradani-en เป็นสวนเอกชนที่ค่าเข้าค่อนข้างแพง (1,500 เยน) แต่เชื่อแอดเหอะมันคุ้มมากๆ มีมุมให้ถ่ายภาพเยอะ

พิกัด :

วิธีเดินทาง : สวนอยู่โซนใกล้ๆวัดทอง ถ้าไปเที่ยววัดทองสามารถเรียก Taxi ไปสวนต่อได้ (ประมาณ 1000 เยน) จริงๆมีบัสสาย M1 ผ่านแต่รอบค่อนข้างห่าง แนะนำว่านั่ง Taxi ดีที่สุด

24. Ninnaji Temple จังหวัด Kyoto

อีกที่นึงที่สามารถชมซากุระพันธุ์บานช้าได้ โดดเด่นด้วยมุมซากุระและเจดีย์ ซากุระสายพันธุ์นี้ดอกจะใหญ่ มีใบแซม

พิกัด : 

วิธีเดินทาง : นั่งบัสไป หรือ นั่งรถราง Randen ลงสถานี Omuro-Ninnaji แล้วเดินต่อ 5 นาที

25. Yoshinoyama จังหวัด Nara

ที่นี่ขอยกให้เป็นที่สุดของซากุระญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่มีปริมาณเยอะที่สุด แต่วิวทิวทัศน์สวยงามประทับใจมาก การเดินทางค่อนข้างไกลและเดินเยอะ แต่ถือว่าคุ้มมาก

จุดที่ไม่ควรพลาดชมคือ จุดชมวิว Hanayagura วันที่แอดไปโชคดีมาก เพราะฝนตกเลยได้เห็นหมอกสลับกับซากุระที่ผลิบานไปทั้งภูเขา

พิกัด : จุดชมวิว Hanayagura

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงสถานี Yoshinoyama (จาก Osaka หรือ Kyoto ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) จากนั้นเดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆก็ได้ แต่แอดสายสบายขอแนะนำนั่งบัสไป 2 ต่อ ไปลงที่ Okusenbon แล้วเดินลงไปเรื่อยๆ จนถึงตีนเขาจะดีกว่า หรือ นั่ง Taxi ให้ไปส่งตามจุดต่างๆ ที่ต้องการได้

 

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : I will see the world : ชีวิตเดียวเที่ยวให้คุ้ม


บทความที่เกี่ยวข้อง

พยากรณ์ซากุระบาน ประเทศญี่ปุ่น 2019

รีวิวเที่ยวญี่ปุ่น ลุยเดี่ยว ชมซากุระที่โตเกียว และเกียวโต

ที่มาและความหมายของชื่อ “ดอกซากุระ”