ที่เที่ยวหน้าฝน ที่เที่ยวเดือนมิถุนายน น้ำตกเจ็ดสาวน้อย ภูทับเบิก ล่องแก่งลำน้ำเข็ก อำเภอปัว อำเภอเนินมะปราง อ่างเก็บน้ำวังบอน เทศกาลดอกกระเจียวบาน เทศกาลผีตาโขน เทศกาลพลุนานาชาติ พัทยา

10 ที่เที่ยวเดือนมิถุนายน แบกเป้ลุยฝน ชมธรรมชาติสวยในไทย

Home / นักเที่ยวเชี่ยวทาง / 10 ที่เที่ยวเดือนมิถุนายน แบกเป้ลุยฝน ชมธรรมชาติสวยในไทย

10 ที่เที่ยวเดือนมิถุนายน
แบกเป้ลุยฝน ชมธรรมชาติสวยในไทย

ทำงานมาครึ่งปี รู้สึกเหนื่อยล้าอ่อนแรง คงต้องหาเวลาพักกายพักใจสักหน่อย ตามเราไปเที่ยวชมธรรมชาติสวยๆ ในไทย ดอกไม้ น้ำตก ภูเขา นาข้าว หมอกจางๆ อากาศเย็นๆ ตลอดจนวัฒนธรรมประเพณีที่หากไม่ไปปีนี้ ก็ต้องรออีกยาวเลยทีเดียว มาดูกันว่า ที่เที่ยวเดือนมิถุนายน ช่วงต้นฤดูฝนแบบนี้ เรามีที่ไหนมาแนะนำบ้าง

1. เทศกาลดอกกระเจียวบาน จ.ชัยภูมิ

เข้าสู่ช่วงเดือนมิ.ย.-ส.ค. ของทุกปี ดอกกระเจียวสีชมพูอมม่วง ต่างพากันบานสะพรั่ง ชูช่อล้อสายลมและสายหมอก ละลานตาทั่วทั้งผืนป่า ซึ่งที่จังหวัดชัยภูมิ จะมีการจัดเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวบาน สามารถไปความงามกันได้ที่อุทยานป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต และอุทยานไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหง

************************************************************

2. เทศกาลพลุนานาชาติ พัทยา

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งงานใหญ่ที่ทุกคนรอคอย สำหรับ เทศกาลพลุนานาชาติ เมืองพัทยา กับการโชว์พลุดอกไม้ไฟสีสันตระการตาประกอบ แสง สี และเสียงดนตรี สว่างเจิดจ้าทั่วฟ้าเหนือทะเลพัทยายามค่ำ โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายน 2561 บริเวณชายหาดพัทยากลาง ตั้งแต่เวลา 18:00 น. เป็นต้นไป ห้ามพลาดนะจ๊ะ!

************************************************************

3. เทศกาลผีตาโขน จ.เลย

ชื่อเต็มๆ ของงานนี้ก็คือ ประเพณีบุญหลวง และการละเล่นผีตาโขน เป็นประเพณีเก่าแก่ที่สืบต่อกันมายาวนานของชาวอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย เด็กและผู้ใหญ่จะออกมาร้องเล่นเต้นรำ ใส่สุด ใส่หน้ากาก กันอย่างสนุกสนาน แห่ขบวนไปรอบๆ เมือง

โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16- 18 มิถุนายน 2561 สถานที่จัดงานหลักจะอยู่ที่ศาลากลางจังหวัด ลากยาวไปจนถึงวัดโพนชัย

************************************************************

4. ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

ช่วงต้นฤดูฝน อากาศบบนยอดภูทับเบิกกำลังเย็นสบาย ต้นไม้ใบหญ้าเริ่มเป็นสีเขียวดูสบายตา ความอเมซซิ่งอย่างนึงที่มาพร้อมความชุ่มฉ่ำของหยาดฝนคือ เรามีโอกาสเห็นทะเลหมอกขาวโพลนตลอดวัน และยังได้ชมแปลงกะหล่ำปีขนาดใหญ่ ที่ชาวบ้านปลูกไว้เต็มหมดทุกแปลง มองเห็นกว้างไกลสุดขุนเขา

************************************************************

5. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จ.พิษณุโลก

สายเที่ยวแอดเวนเจอร์ ต้องไม่พลาด ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จ.พิษณุโลก ทั้งมันส์ ทั้งท้าทาย ด้วยเส้นทางของลำน้ำที่ยาวกว่า 8 กิโลเมตร  เต็มไปด้วยเกาะแก่งน้อยใหญ่ถึง 17 จุด ซึ่งต้องใช้ความชำนาญขั้น expert เนื่องจากมีความยากสูงถึงระดับ 5 และยากติดอันดับต้นๆ ของการล่องแก่งในประเทศไทย

************************************************************

6. อ่างเก็บน้ำวังบอน จ.นครนายก

ขอบคุณรูปภาพจาก : tat8

ชื่นชมธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯ กันที่ อ่างเก็บน้ำวังบอน จังหวัดนครนายก ซึ่งอยู่ในความดูแลผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ มีสารพัดกิจกรรมให้ทำแก้เบื่อ ตั้งแต่ทั้งเดินป่า ดูนก ตกปลา เช่าจักรยานปั่นรอบๆ โรยตัวจากหน้าผา และพายเรือแคนูไปชมน้ำตกแบบใกล้ชิด ใครติดใจไม่อยากกลับ สามารถกางเต็นท์นอนชิลล์ๆ ริมทะเลสาบได้ด้วย

ขอบคุณรูปภาพจาก : tourismnakhonnayok

************************************************************

7. น้ำตกเจ็ดสาวน้อย จ.สระบุรี

น้ำตกเจ็ดสาวน้อย ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าโปร่ง มีต้นน้ำมาจากผืนป่าในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประกอบไปด้วยน้ำตกชั้นเตี้ยๆ จำนวน 7 ชั้น สายน้ำไหลลดหลั่นกันลงมาผ่านชั้นหิน ลักษณะคล้ายแก่งกว้างๆ ที่มีแอ่งน้ำตื้นๆ รองรับหลายจุด สามารถลงเล่นน้ำ หรือปูเสื่อนั่งพักผ่อนกันตามสบาย

************************************************************

8. ยอยักษ์ บ้านปากประ จ.พัทลุง

บ้านปากประ จ.พัทลุง เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ริมทะเลสาบ มีความโดดเด่นของยอขนาดยักษ์ ที่ชาวบ้านทำไว้ใช้ดักจับปลาและสัตว์น้ำ ตามวิถีดั้งเดิม โดยเฉพาะปลาลูเบร่ ซึ่งมีขนาดเล็กมาก จึงต้องทำตาข่ายถี่แบบกระชอนช้อนลูกน้ำ แต่ขยายให้ใหญ่กว่า นอกจากชุมชนชาวประมงที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังเป็นจุดชมแสงแรกแห่งอรุณรุ่งที่งดงามจนไม่อาจละสายตา

************************************************************

9. อำเภอเนินมะปราง จ.พิษณุโลก

ขอบคุณรูปภาพจาก : ที่นี่ อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก

เนินมะปราง เป็นอำเภอเล็กๆ ในจังหวัดพิษณุโลก ที๋โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงามของภูเขาหินปูนสูงตระหง่าน ทำให้ได้รับการขนานนามว่าเป็นกุ้ยหลินเมืองไทย แห่งที่สอง พื้นที่ส่วนใหญ่ทำการเกษตร ทั้งทำนา ทำไร่อ้อย ไร่ข้าวโพด และทำสวนผลไม้ มีอากาศเย็นสบายตลอดปี

สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด เช่น ถ้ำเดือนถ้ำดาว ด้านในเต็มไปด้วยหินงอกหินงอกสวยงาม, เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล จะเห็นฝูงลิงอ้ายเงี้ยะอยู่รอบๆ ถ้ำ,  กางเต็นท์นอนกลางต้นไม้ที่บ้านสวนชมวิวและโฮมสเตย์บ้านรักไทย มีไฮไลท์เป็นชิงช้าบนต้นไม้ แกว่งไปชมวิวไปได้แบบอลังการสุดๆ

************************************************************

10. อำเภอปัว จ.น่าน

ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ และยังหอบเอาความชุ่มชื้นมาพร้อมกับความเขียวขจีของทุ่งข้าว อย่างที่อำปัว จังหวัดน่าน อำเภอเล็กๆ แสนโรแมนติก เหมาะกับการใช้ชีวิตสโลไลฟ์ แม้เดือนมิ.ย. ต้นข้าวจะยังไม่โตเต็มที่ เพราะชาวบ้านเพิ่งเริ่มดำนากัน แต่ภาพที่ได้คือผืนนาสีน้ำตาลกว้างไกลตัดกับต้นกล้าสีเขียว เป็นอะไรที่สวยงามไปอีกแบบ

หากคุณขับรถมาเอง แนะนำให้ขับไปตามเส้นทางถนนหลวงหมายเลข 1256 ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนลอยฟ้าที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ตลอดสองข้างเต็มไปด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติของขุนเขาและต้นไม้ จะฟินมากถ้าลดกระจกหน้าต่างลง ให้ลมเย็นๆ ปะทะร่างกาย

ขอบคุณรูปภาพจาก : thailandtopvote