เที่ยวเวียงจันทน์ (ลาว) ที่กิน ที่เที่ยวฉบับ(เกือบ)สมบูรณ์

หอพระแก้ว และ วัดสีสะเกด (เที่ยวลาว เวียงจันทน์) หอพระแก้ว (ຫໍພະແກ້ວ Hor Phakeo Museum) วัดสีสะเกด (ວັດສີສະເກດ Si Saket Temple) ณ เวียงจันทน์ ลาว เดิมเป็นทีประทับของพระแก้วมรกต

สถานที่เที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจคือ

• ตลาดเช้า (ภาษาลาวว่า “ตลาดเซ้า”) เปิดขายตอนเช้าถึงสี่โมงเย็น เหมือนห้างสรรพสินค้าครับ
• ตลาดมืด (คนลาวเรียกตลาดตอนเย็นว่า “ตลาดมืด”) บนถนนฟ้างุ้ม ทอดตัวยาวตามแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นจุดขายเสื้อผ้า ของที่ระลีก เป็นแหล่งออกกำลังกาย แอโรบิคด้วยล่ะครับ (ใครอยากจะซื้อของฝาก ซื้อที่นี่ได้ครับ ทั้งเสื้อยืด พวงกุญแจ แม่เหล็กสัญลักษญ์ลาว)

• องค์ตื๊อ อีกวัดหนึ่งที่หลายคนบอกว่า ศักดิ์สิทธิ์และขอพรได้สัมฤทธิ์
• พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เก็บโบราณวัตถุ ต่างๆตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ จนถึงยุคสำริด และการเปลี่ยนแปลงการปกครอง (สำหรับคนที่ชอบประวัติศาสตร์เท่านั้น)

แนะนำสถานที่กิน

สถานที่กินที่ คนไทยไปกินได้สะดวก และร้านขึ้นชื่อของเวียงจันทน์มีดังนี้ครับ

เนื่องจากใส่รูป ใส่คำบรรยายเริ่มจะยาวเกิน จึงแยกเป็นลิงก์เนื้อหารวมทั้งหมดหกร้านดังนี้

เที่ยวกิน-กินเที่ยว 6 ร้านอร่อย ในเวียงจันทน์ (ส.ป.ป.ลาว) เนื้อหาต่อเนื่องสำหรับ นักกิน และต้องการหาที่กินที่ราคาเหมาะสม รสชาติเหมาะสม กินง่ายสำหรับคนไทย ก็ต้องอ่านเนื้อหานี้ล่ะครับ พร้อมทั้ง แผนที่ร้านอาหารแนะนำเวียงจันทน์ ด้วย

• ร้านอาหาร ขอบใจเด้อ – เวียงจันทน์ อาหารหลากหลายสัญชาติ ไทย จีน ลาว ฝรั่ง
• ร้านอาหาร เฝอแซ่บ – เวียงจันทน์ ก๋วยเตี๋ยวรสชาติดีที่ดังมากๆ
• ร้านอาหาร บางคำนาง – เวียงจันทน์ อาหารลาวพื้นเมือง ที่อยากให้ลอง
• ร้านอาหาร Mix น้ำพุ – เวียงจันทน์ ร้านบาร์บีคิว ผสม อาหารพื้นเมือง บรรยากาศดี มีวงดนตรี
• ร้านอาหาร และขนม Scandinavian Bakery – เวียงจันทรน์ เค้ก เบอร์เกอร์ แซนด์วิช
• ร้านกาแฟ และขนม Joma Coffee & Bakery (โจมา)- เวียงจันทน์ ร้านกาแฟ เค้ก ชื่อดังในเวียงจันทน์ และหลวงพระบาง

ค่าครองชีพสูง ค่าแรงต่ำ

คนลาวยอมรับกับเราว่า นี่คือเรื่องจริงที่หลายคนสงสัยว่า คนเวียงจันทน์ใช้ชีวิตได้อย่างไร ซึ่งคนลาวเปิดเผยว่า พวกเขาเลือกทานอาหารที่ราคาแพงก็จริง แต่เป็นอาหารจานโต และพยายามจะทำอาหารกินเองบางมื้อด้วยเพื่อความประหยัด

• อาหารแต่ละจาน ก๋วยเตี๋ยว และข้าวราดกระเพรา ผัดไท ราคาเริ่มต้นที่ 60-80 บาท (แต่จานใหญ่กว่าบ้านเรานะครับ)
• แท็กซี่มีเตอร์ ราคาเริ่มต้นที่ 60 บาท
• น้ำขวด เริ่มต้นที่ 8-10 บาท น้ำอัดลมกระป๋อง เริ่มต้นที่ 16 บาท
• ไอศกรีม แม็กนั่ม ราคา 48 บาท

สรุปคือ สินค้าที่ลาวผลิตเอง ราคาใกล้เคียงกับไทย แต่อาหารหรูเช่น ร้านอาหารฝรั่งเศส ร้านอาหารอิตาลี ราคาต่อจานเริ่มต้นที่ 120 – 200 บาท รวมกับไอศกรีม และน้ำอัดลมเหล่านั้น สรุปว่าราคาสูงกว่าสินค้าเดียวกันในประเทศไทย โดยเฉลี่ย 0% – 20%

คุยกันภาษาลาว

ภาษาลาวคล้ายกับภาษาไทย  ทั้งภาษาพูดและภาษาเขียนเพียงแต่ใช้กันคนละความหมาย คนละสำเนียง เหมือนกับเป็นกึ่งกลางระหว่างภาษาอีสานและภาษาเหนือของไทย (ซึ่งในอดีตนั้น อาณาจักร ล้านช้าง ล้านนา-เชียงใหม่ และหัวเมืองอีสาน มีทั้งที่เป็นมิตร และอริ มีการแลกเปลี่ยนเชื้อสาย แต่งงานข้ามราชวงศ์เป็นเครือญาติกัน)

หากสนใจภาษาลาวแบบละเอียดอ่านเนื้อหานี้นะครับ

เรียนรู้ศัพท์ ภาษาลาว สื่อสารกับคนลาวได้อย่างมั่นใจ ไม่ผิดเพี้ยน

• ผลไม้ส่วนใหญ่ เรียกนำหน้าด้วย “หมาก” เช่น หมากพร้าว หมากม่วง
• น้ำเปล่า เรียกว่า “น้ำดื่ม” ส่วนน้ำแข็งเรียกว่า “น้ำก้อน” หลอดดูด เรียกว่า “ท่อดูด”
• ข้าว(เฉยๆ) เขาจะนึกถึง ข้าวเหนียว ถ้าจะสั่งข้าวสวย ให้สั่ง “ข้าวสวย” หรือ “ข้าวหอมมะลิ”
• แกง และผัดส่วนใหญ่ เขาใส่ ปลาร้า ลงไปด้วย เพื่อความปลอดภัยสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย บอกเขาก่อนว่า “ไม่ใส่ปลาแดก”
• คนลาวทักทายด้วยคำว่า “สะบายดี” (เราก็ตอบคำเดียวกัน)
• คนลาวขอบคุณด้วยคำว่า “ขอบใจ” (สั้นๆไม่มี คะ ไม่มี ครับ คำนี้ ถือว่าสุภาพอยู่แล้ว) ถ้าจะเน้นก็ “ขอบใจหลาย”
• ใช่ ให้พูดว่า “แม่น” ส่วน ไม่ ให้พูดว่า “บ่”
• แก้ว(น้ำ) และถ้วย เรียก “จอก” / ขวดน้ำ เรียก “แก้ว” / กาละมัง เรียกว่า “ชาม” / ชาม เรียกว่า “ถ้วย” (ถ้าใครขอ เฝออีกหนึ่งชามนี่ ท้องแตกแหงๆ)
• “ปี้” ในภาษาลาว คือ บัตรผ่าน หรือ ตั๋ว ไม่ได้มีความหมายทะลึ่งเหมือนที่เราใช้กัน (บ่อนขายปี้ คือ เคาน์เตอร์ขายตั๋ว)
• “มื้อ” ในภาษาลาว คือ วัน เพราะฉะนั้น “มื้อนี้” หมายถึง วันนี้ / ส่วนเวลาเช้า เรียก “เซ้า” / เรียกเวลาเป็น “โมง” (เหมือนไทยเรา) / เวลาบ่ายเรียกเวลาเป็น “บ่าย”(เหมือนบ้านเรา) / เย็น เรียก “แลง”   / ตอนกลางคืนก็เรียกเป็น “ทุ่ม”
• ร้านอาหารและภัตตาคาร คนลาวเรียกรวมๆว่า “ร้านอาหาร” และคำว่า “ภัตตาคาร” สำหรับคนลาว หมายถึงร้านอาหารไฮโซ ราคาแพงระดับโรงแรมกันเลย (ดังนั้นถ้าบอกว่าจะไปกินภัตตาคาร แล้วละก้อ อาจจะโดนนำไปร้านแพงๆกระเป๋าฉีกได้นะครับ) “กะแล่ม” คือ ไอศกรีม เวลาคิดเงิน เช็คบิล ใช้คำว่า “ไล่เงิน” ครับ
• ตามสถานที่สำคัญ เขาจะให้ “ปดเกิบ” คือ ให้ถอดรองเท้า ส่วนคำว่า “ลองเท้า” ของลาว หมายถึง ถุงเท้า

ให้เกียรติชนชาติ ประวัติศาสตร์​ ไทย ลาว

คนลาวมองเมืองไทย เป็น “เมืองพี่” ที่สุขสบายกว่า เจริญกว่า แต่เขาไม่เคยอิจฉาคนไทยครับ คนลาวคนหนึ่งบอกกับผมว่า ประเทศเขาไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองมานานจึงยังพัฒนาช้ากว่า แต่เขาพอใจกับการทำมาหาเลี้ยงชีพแบบที่เป็นอยู่ และดีใจที่คนไทยมาเที่ยวลาวเยอะขึ้น

ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนมา คือ ดินแดนลาวมาจากอาณาจักรล้านช้าง (ซึ่งครอบคลุมถึงภาคอีสานของไทยในปัจจุบัน) ซึ่งได้แย่งชิงอำนาจกันเองจนกลายเป็น ล้านช้างหลวงพระบาง ล้านช้างเวียงจันทร์ และล้างช้างจำปาศักดิ์ ซึ่งได้สู้รบกับพม่า และกับสยาม และตกกลายเป็นอาณาจักรหนึ่งของสยามในช่วงเวลาหนึ่ง และในช่วงที่ผู้นำอาณาจักรล้านช้างตั้งตนเป็นอิสระ จึงมีการสู้รบ ซึ่งเมื่อครั้งพระเจ้าตากสินได้ชัยชนะ จึงอัญเชิญพระแก้วมรกต (และพระบาง) มาประดิษฐาน ณ สยาม อีกครั้งเมื่อพระนั่งเกล้าฯ กำราบการโจมตีเข้ามาทางหัวเมืองอีสานจึงสั่งเผาทำลายเมืองเวียงจันทร์เสีย เหลือเพียง หอพระแก้ว และ วัดสีสะเกด ต่อมาลาวถูกยึดโดยฝรั่งเศส (รวมทั้งที่ สยาม ยกให้) และตกอยู่ภายในการกดขี่ข่มเหงสารพัดจากฝรั่งเศส

ดังนั้น คนลาวผ่านประวัติศาสตร์ที่โหดร้าย ปัจจุบัน คนลาวลุกขึ้นยืนใหม่ ที่น่าทึ่งคือ คนลาวหลีกเลี่ยงที่จะอธิบายอดีตของโบราณสถาน และโบราณวัตถุต่างๆว่า ถูกสยาม (เมื่ออดีต) ทำลายเกือบสิ้น โดยจะพูดแค่ว่า “ถูกทำลายจากสงคราม” ซึ่งเขาหลีกเลี่ยงเพื่อให้เกียรติคนไทยในฐานะ นักท่องเที่ยวจากเมืองพี่ (ประวัติศาสตร์นั้น รบไปรบมา จะบอกว่าใครผิดก็คงไม่ใช่ประเด็น)

ในเมื่อคนลาวให้เกียรติคนไทยแบบนี้ เขาน่ารักแบบนี้ เราก็ควรให้เกียรติคนลาวเช่นกัน การใช้คำว่า “ลาว” ในเชิงลบ คงต้องเปลี่ยนซะใหม่นะครับ ลาว คือ ความสงบ ใจเย็น น้ำใจงาม ซึ่งมีความหมายเชิงบวกครับ เที่ยวลาวซักครั้งแล้วจะรู้เองครับ

คราวหน้า จะนำท่านไปหลวงพระบางครับ

อ้างอิง http://th.wikipedia.org/wiki/ประเทศลาว