ผลสำรวจล่าสุดของคณะกรรมาธิการยุโรปพบว่า นักท่องเที่ยวชาวยุโรปนิยมปิดมือถือไม่ใช้โรมมิ่ง หรือเล่นอินเทอร์เน็ต ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในยุโรป พฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากสาเหตุอะไร
การสำรวจของคณะกรรมาธิการยุโรปล่าสุด พบว่า นักท่องเที่ยวชาวยุโรปกว่า 13,200 คน หรือประมาณร้อยละ 47 ของนักท่องเที่ยวชาวยุโรปทั้งหมดนิยมปิดโทรศัพท์มือถือ หยุดใช้งานอินเทอร์เน็ต ในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวไปบนผืนแผ่นดินยุโรป เพื่อหลีกเลี่ยงการเก็บค่าบริการโรมมิ่งข้ามประเทศที่แสนแพงของเครือข่ายโทรศัพท์ที่ตนเองใช้
ค่าโรมมิ่งโหด! นักท่องเที่ยวยอมปิดมือถือ ขณะท่องเที่ยวในยุโรป
นางนีลี โคร์ส รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า จากผลสำรวจเป็นที่น่าตกใจว่า ชาวยุโรปจำนวนมากยังคงกลัวและเชื่อว่า เช้าวันหนึ่งพวกเขาจะตื่นขึ้นมาแล้วถึงกับสลบ เมื่อพบว่าค่าบริการโรมมิ่งแพง ลิบลิ่วจนไม่มีใครปรารถนาที่จะใช้บริการอีก ซึ่งหลายคนประสบปัญหาดังกล่าวมาแล้ว เมื่อบิลค่าบริการถูกส่งมาที่บ้าน ส่วนนักวิเคราะห์ด้านโทรคมนาคมมองว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด
การศึกษาของคณะกรรมาธิการยุโรปในหลายประเทศพบว่า นักท่องเที่ยวเลือกที่จะปิดเฟซบุ๊ก หรือทวิตเตอร์ ร้อยละ 94 ขณะที่ร้อยละ 70 มักจำกัดเวลาในการใช้งาน ระหว่างเดินทางท่องเที่ยวในยุโรป โดยพฤติกรรมเหล่านี้กำลังทำให้เจ้าของธุรกิจแอพพลิเคชั่นแผนที่ หรือแอพพลิเคชั่นนำเที่ยวบนโทรศัพท์มือถือได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน
ในอดีตทางคณะกรรมาธิการยุโรป เคยพยายามเพิ่มมาตรการบังคับให้เจ้าของเครือข่ายธุรกิจมือถือในสหภาพยุโรป ลดราคาค่าบริการโรมมิ่งลง ให้กับลูกค้าที่เดินทางท่องเที่ยวในภาคพื้นทวีป เพื่อลดความกังวลใจให้กับลูกค้าที่ใช้บริการ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการจะทบทวนนโยบาย เพื่อประกาศให้ลดอัตราค่าบริการโรมมิ่งในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป และสร้างความเป็นธรรมต่อลูกค้าให้ได้ในปี 2559
ขณะที่ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ในยุโรปมองการลดค่าบริการอื่นๆ รวมทั้งค่าบริการโรมมิ่ง จะส่งผลให้การแข่งขันลงทุนเปิดให้บริการ 4G ในยุโรปเพื่อเอาใจลูกค้าเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งจะส่งผลให้ค่าบริการในส่วนอื่นๆ ถูกลงตามไปด้วยในอนาคต
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการยุโรปอยู่ในระหว่างการทบทวน และร่างนโยบาย ก่อนที่จะส่งให้สมาชิกสภายุโรปทั้ง 28 ชาติ ลงมติยกเลิกค่าธรรมเนียมค่าบริการโรมมิ่งพร้อมกันทั่วทั้งยุโรปภายในปี 2559 นี้
ขอบคุณข่าวสารจาก voicetv