บนเครื่องบิน ผู้โดยสาร พนักงานบนเครื่องบิน มารยาทบนเครื่องบิน เครื่องบิน แอร์โฮสเตส

คำขอร้องจาก แอร์โฮสเตสโปรดอย่า ถามคำนี้กับฉันเลย

Home / ทิปท่องเที่ยว / คำขอร้องจาก แอร์โฮสเตสโปรดอย่า ถามคำนี้กับฉันเลย

ใครที่ชอบขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวบ่อยๆ หรือต้องไปทำธุระไกลๆ เป็นประจำ แน่นอนว่า แอร์โฮสเตส คือบุคคลที่คุณต้องพูดคุย หรือมีปฏิสัมพันธ์ด้วย ไม่มากก็น้อย หลายคนคิดว่าแอร์มีหน้าที่ให้บริการผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวกสบายมากที่สุด แต่ก็อย่าลืมว่าเที่ยวบินนึงเจอผู้โดยสารเป็นร้อยคน การต้องรับมือกับคนจำนวนมากนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นผู้โดยสารทุกคนควรมีมารยาท และพยายามช่วยเหลือตัวเองในสิ่งที่พอทำได้

คำขอร้องจาก แอร์โฮสเตส
โปรดอย่าถามคำนี้กับฉันเลย

คำถามที่ผู้โดยสาร ไม่ควรถาม และพฤติกรรมที่ไม่ควรแสดงต่อ แอร์โฮสเตส นั้นมีอะไรบ้าง เรามาดูกัน

1. ช่วยดูลูกให้หน่อยได้มั้ย

แอร์มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้ผู้โดยสารทุกคน ไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็ก พวกเขาต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา เพื่อรับมือกับเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้

2.ใช้แอร์เหมือนทาสในเรือนเบี้ย 

ไปเอานู่นให้หน่อยสิ หยิบนี่ให้หน่อยสิ คงจะดีถ้ามีใครคอยปรนนิบัตรตอนอยู่บนเครื่อง แต่อย่าลืมว่า แอร์ ไม่ใช่คนรับใช้ ไม่ได้มีหน้าที่ทำตามคำสั่ง หรือไปหาของทุกอย่างที่ผู้โดยสารต้องการมาให้ ถึงจะเป็นแอร์แต่ก็ไม่ใช่เบ๊นะจ๊ะ

3. ช่วยยกกระเป๋าหน่อยได้ไหม?

แอร์และสจ๊วตไม่มีหน้าที่ยกกระเป๋า ไม่ช่วยคือไม่ผิด นี่เป็นกฏของสายการบินทุกสาย ว่าด้วย ผู้โดยสารมีหน้าที่จัดเก็บสัมภาระติดตัวในห้องโดยสารอากาศยาน และต้องปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยานเกี่ยวกับการจัดเก็บสัมภาระติดตัวดังกล่าว 

ถ้าผู้โดยสารไม่ยอมโหลดกระเป๋า ก็แปลว่าต้องยกกระเป๋าตัวเองขึ้นไปเก็บได้แบบไม่เดือดร้อนใคร เพราะฉะนั้นหน้าที่ยกกระเป๋า ไม่ใช่หน้าที่แอร์ หรือ สจ๊วตนะจ๊ะ อย่าหาว่าไม่มีน้ำใจ (ยกเว้นแต่แอร์จะแสดงความมีน้ำใจต่อผู้โดยสารที่เห็นว่ายกเองไม่ไหวแน่ๆ)

4. อย่าถามแอร์เลยว่าทำไมเครื่องดีเลย์

และอย่าเหวี่ยงใส่พวกเขาด้วย เพราะเครื่องดีเลย์ไม่ใช่ความผิดของแอร์ แต่เกิดจากหลายปัจจัย เช่น สภาพอากาศและทัศนวิสัยที่ไม่ดี, การจราจรหนาแน่น, เครื่องเสีย เป็นต้น ซึ่งบางทีพวกเขาก็ไม่ได้รู้คำตอบดีไปกว่าผู้โดยสารหรอก แถมยังหงุดหงิดอยากกลับบ้านไม่ต่างจากผู้โดยสารอย่างเราๆ ด้วย

5. อย่าขอไปเข้าห้องน้ำตอนเครื่องจะออกเด็ดขาด

เพราะเมื่อมีสัญญาณให้คาดเข็มขัด นั่นก็หมายความว่าผู้โดยสารต้องนั่งประจำที่ ควรเตรียมตัว ทำธุระให้เรียบร้อยก่อนขึ้นเครื่อง หรือรออีกนิดให้เครื่อง take off เรียบร้อยก่อน

6. ทำไมต้อง รัดเข็มขัดนิรภัย ปรับพนักเก้าอี้ตั้งตรง เก็บโต๊ะหน้าที่นั่ง เปิดหน้าต่าง เก็บกระเป๋าไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้า 

หยุดคำถามว่า ทำไม แล้วปฏิบัติตาม นั่นเพราะ

6.1 “การรัดเข็มขัดนิรภัย” จะทำให้ตัวเราไม่เลื่อนไหลลงไปกองที่พื้น เนื่องจากแรงกระแทกตอนเครื่องแตะพื้น ซึ่งหากเราไม่รัดเข็มขัด หรือรัดหลวมๆ เราอาจลงไปนอนจุ้มปุ๊กบนพื้น กระแทกขาเก้าอี้ของคนด้านหน้า หน้าฟาดไปที่กระเป๋าที่นั่งด้านหน้า และเมื่อเครื่องบินจอดสนิท ก็จะมีแรงเหวี่ยงตัวเรากลับมาด้านหลัง

6.2 “การเก็บโต๊ะหน้าที่นั่ง” จะทำให้ตัวเราไม่อัดกระแทกเข้าไปกับโต๊ะด้านหน้า และยังช่วยให้เรามีพื้นที่ในการหนีออกมาได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันอีกด้วย

6.3  “การปรับพนักเก้าอี้ให้อยู่ในระดับตรง” เพราะถ้าเราเอนเก้าอี้ลง เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้ เครื่องตกน้ำ ผู้โดยสารด้านหลังจะไม่สามารถหนีทัน เนื่องจากเก้าอี้ของเราขวางทางเขาอยู่

6.4 “การเปิดม่านหน้าต่าง” เพราะผู้โดยสารคือคนสำคัญ ที่จะช่วยลูกเรือสอดส่องดูทัศนวิสัยภายนอกได้ว่า มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ไฟอาจไหม้ปีกเครื่องบินก็ได้ เมื่อเกิดเหตุต้องรีบแจ้งลูกเรือทันที

6.5 “เก็บกระเป๋าไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้า” เพราะกระเป๋าที่เรากอดอย่างทะนุถนอมไว้บนตัก นั่นแหละ จะเป็นภัยมาสู่ตัวเอง จะเป็นการกีดขวางทางออกทั้งตัวเราและผู้โดยสารที่นั่งด้านข้างด้วย

Source :thisisinsiderCabin Crew Club : สมาคมลูกเรือไทย