องค์การยูเนสโก (UNESCO) ประกาศขึ้นทะเบียน มรดกโลกแห่งใหม่ (World Heritage) จำนวนทั้งสิ้น 7 แห่ง ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 42 ณ กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน – 4 กรกฎาคม ที่ผ่าน และเราขอพาไปเที่ยวชม มรดกโลกยุคใหม่ นี้ให้รู้จักไปพร้อมๆ กัน
7 ที่เที่ยว มรดกโลกแห่งใหม่
ที่ควรไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง
1. เมืองท่าโบราณ
เมืองคาลฮัท ประเทศโอมาน

เมืองคาลฮัท (Qalhat) ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศโอมาน อดีตเคยเป็นเมืองท่าสำคัญในระหว่างศตวรรษที่ 11 ถึง 15 ปัจจุบันยังคงทิ้งร่องรอย ของกำแพงเมืองเก่าที่สร้างล้อมรอบเมืองแห่งนี้เอาไว้
**************************************************************
2. โบสถ์คริสต์ที่ถูกซ่อนไว้
เมืองนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น

โบสถ์ที่ถูกซ่อน ในเมืองนางาซากิ บนเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของหมู่บ้าน 10 แห่ง ปราสาท และโบสถ์คริสต์ ที่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 18 – 19 ซึ่งตรงกับช่วงที่ศาสนาคริสต์เป็นสิ่งต้องห้ามในญี่ปุ่น สิ่งปลูกสร้างเหล่านี้
เกาะคิวชู ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของ หมู่บ้าน 10 แห่ง ปราสาท และโบสถ์คริสต์ ที่ถูกสร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 18 – 19 ซึ่งในช่วงเวลานั้น ศาสนาคริสต์เป็นสิ่งต้องห้ามในประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงกิจกรรมของมิชชันนารีและชาวคริสต์ยุคแรกที่เดินทางเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น
**************************************************************
3. สถาปัตยกรรมกอทิก และอาร์ตเดโค
เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย

หลังจากที่เมืองมุมไบก้าวขึ้นมาเป็นเมืองเศรษฐกิจของโลกในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ก็ได้พัฒนาสิ่งปลูกสร้างสวยงามและทันสมัยจำนวนมาก ทั้งอาคารสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรีย รวมถึงอาคารแบบอาร์ตเดโค สะท้อนให้เห็นถึงช่วงการปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ของมุมไบในสมัยนั้น
**************************************************************
4. โอเอซิส อัล-ฮาซา
ประเทศซาอุดิอาระเบีย

โอเอซิส อัล-ฮาซา ทางตะวันออกของคาบสมุทรอาหรับ เป็นโอเอซิสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบไปด้วยต้นปาล์มกว่า 2 ล้านต้น คูคลอง ลำธาร ไปจนถึงสิ่งปลูกสร้าง และแหล่งโบราณคดีที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกทั้งยัง อีกทั้งยังเป็นที่อาศัยของมนุษย์มาตั้งแต่ยุคหินใหม่ มาจนถึงปัจจุบัน
5. วัดบนภูเขาซันซา ประเทศเกาหลีใต้

กลุ่มวัดทั้ง 7 แห่ง บนภูเขาซันซา ประเทศเกาหลีใต้ เป็นศูนย์รวมศรัทธาของศาสนิกชนมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 7 ซึ่งแต่ละแห่งมีสนามหญ้า ห้องโถงสำหรับเทศนา ซุ้มศาลา และอุโบสถที่งดงาม ได้แก่
- วัดซอนัมซา
- วัดแทฮองซา
- วัดบ็อปจูซา
- วัดมาก็อกซา
- วัดทองโดซา
- วัดบองจองซา
- วัดบูซ็อกซา
**************************************************************
6. แหล่งโบราณคดีของจักรวรรดิแซสซานิด
จังหวัดฟาร์ส ประเทศอิหร่าน

แหล่งโบราณคดีของจักรวรรดิแซสซานิด โครงสร้างที่มีความสำคัญเชิงโบราณคดี 8 แห่ง ในเมืองฟาร์ส ประเทศอิหร่าน ประกอบไปด้วยป้อมปราการ วัง และแผนผังเมือง ที่ถูกสร้างขึ้นในจักรวรรดิแซสซานิด ช่วงศตวรรษที่ 3-5
ยูเนสโก กล่าวว่าสถานที่เหล่านี้ ไม่เพียงสะท้อนให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้ภูมิประเทศให้เป็นประโยชน์ต่อการก่อสร้าง แต่ยังเป็นหลักฐานที่แสดงถึงอิทธิพลของศิลปะโรมัน รวมถึงประเพณีของจักรวรรดิอาคีมานิด จักรวรรดิพาร์เธีย ในช่วงเวลานั้นอีกด้วย
**************************************************************
7. กำแพงหินเรียง ประเทศเคนยา

กำแพงหินเรียง ที่แหล่งโบราณคดี ธิมลิค โอฮิงกา ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองมิโกริ เป็นกำแพงหินเรียงที่ใหญ่และอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด เป็นการก่อกำแพงโดยอาศัยการเรียงตัวของหินโดยปราศจากปูน คาดว่าถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 เพื่อใช้ในการต้อนสัตว์ และยูเนสโก ยกให้เป็นตัวอย่างของประเพณีในชุมชนปศุสัตว์แรก ๆ ในพื้นที่ลุ่มทะเลสาบวิกตอเรีย
ขอบคุณข้อมูลจาก : bbc
**************************************************************
แหล่งท่องเที่ยวทางมรดกโลกที่น่าสนใจ
– ห้ามพลาด! 10 ที่เที่ยวมรดกโลกในญี่ปุ่น
– เที่ยวเสียมเรียบ กัมพูชา กับ 4 มหาปราสาทมรดกโลก
– เที่ยวเมืองประวัติศาสตร์ “อยุธยา” คุณค่ามรดกโลก
– พาเยือน 4 มรดกโลก โปรตุเกส ดินแดนแห่งนักเดินเรือ
– ยูเนสโกประกาศ 21 สถานที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งใหม่ ปี 2016
– มรดกโลก แห่งใหม่ 13 แห่ง ปี 2009