เที่ยวโครงการชั่งหัวมัน ชิวลม ชมวิว ณ บ้านไร่ของในหลวง

ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ พอจะมีสถานที่แห่งไหน ที่มีอากาศแสนบริสุทธิ์ และทิวทัศน์อันสวยงามเขียวขจี ที่จะรักษาอาการภูมิแพ้กรุงเทพฯ ได้บ้างหรือไม่….สงสัยจะต้องออกตามหา

เส้นทางมุ่งสู่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะผ่านดินแดนบ้านไร่ บนภูเขาแห่งหนึ่ง ที่ว่ากันว่า คือบ้านไร่ที่มีคนแวะเวียนไปมากที่สุด อยากรู้แล้วสิว่า ณ ที่แห่งนั้นจะมีอะไรซ่อนอยู่

เที่ยวโครงการชั่งหัวมัน ชิวลม ชมวิว
ณ บ้านไร่ของในหลวง รัชกาลที่ 9

ณ โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ ที่แห่งนี้นี่แหละ คือสถานที่ที่มีคนแวะเวียนไปชนิดที่ว่า หัวกระไดไม่เคยแห้ง และที่นี่ก็คือ บ้านไร่ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9)

พื้นที่ ของโครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ อยู่ในความดูแลของ กองทัพภาคที่ 1 ซึ่งโครงการนี้เกิดขึ้นจากความเอาพระทัยใส่ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีต่อเกษตรกรในการที่จะพัฒนาส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรม ให้ประสบความสำเร็จและสามารถเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน

ต้นกำเนิดของพื้นที่แห่งนี้ เริ่มขึ้นตอนที่ตอนพระองค์ท่านประทับอยู่ ณ วังไกลกังวล แล้วมีชาวบ้านนำมันเทศมาถวาย ช่วงนั้นพระองค์ต้องเสด็จกลับกรุงเทพ เลยรับสั่งให้เจ้าหน้าที่นำหัวมันเทศนั้นไปวางไว้บนตาชั่งในห้องทรงงาน จากนั้นก็เสด็จกลับกรุงเทพ

พอเวลาล่วงเป็นเดือน เมื่อเสด็จกลับมาหัวหินทรงพบว่ามันเทศนั้นได้แตกใบ เลยตรัสว่า “มันอยู่ที่ไหนก็งอกได้” จากนั้นจึงมีพระราชดำริให้จัดหาที่ดิน

เที่ยวโครงการชั่งหัวมัน

เที่ยวโครงการชั่งหัวมัน ชิวลม ชมวิว ณ บ้านไร่ของในหลวง

ที่ดิน จำนวนกว่า 250 ไร่ แต่เดิมเป็นดินลูกรัง ปลูกไม้ยูคาลิปตัส พระองค์ทรงนำพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อที่ดินจากชาวบ้าน เพื่อทำการเกษตร โดยเน้นที่พืชท้องถิ่นของเพชรบุรี เช่น มะพร้าว ชมพู่เพชร มะนาว กะเพรา สัปปะรด ข้าวไร่พันธุ์ต่าง ๆ และทรงพระราชทานพันธุ์มันเทศ ซึ่งงอกออกมาจากหัวมันที่ตั้งโชว์ไว้บนตาชั่งในห้องทรงงานที่วังไกลกังวล ให้นำมาปลูกไว้ด้วย พร้อมกับพระราชทานชื่อโครงการว่า “โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ”

เนื้อที่ภายในโครงการกว้างสุดลูกหูลูกตา บนภูเขา มีลมโกรก เย็นสบาย และพื้นที่ทั้งหมดถูกจัดสรรทำการเกษตรเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีส่วนของกังหันผลิตไฟฟ้า มีฟาร์มโคนม ฟาร์มไก่ รวมถึงแปลงเกษตรที่จัดเป็นสวยสวยให้คนแวะมาเยี่ยมชม พักผ่อน นั่งเล่นตามซุ้มเงาร่มไม้ตามอัธยาศัย

“บ้านของพ่อ” เลขที่ 1 หมู่ 5

เป็นบ้านพักส่วนพระองค์ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถือฉโนด บ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 5 บ้านหนองคอกไก่ ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี และมีชื่อในทะเบียนบ้านเป็น เกษตรกรทำไร่

บ้านของพ่อ มีลักษณะเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ทาสีน้ำตาล ตกแต่งอย่างเรียบง่ายและพอเพียง ด้านล่างยกใต้ถุนสูง ไว้สำหรับจอดรถยนต์ที่ใช้เวลาทรงงาน

ถ้าใครคิดว่า “หัวมัน” นั้นไร้ค่า เป็นอาหารชั้นสอง ก็ลองมาฟังเรื่องจริงก็มหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่นเจ้าของเกียวโตแบงก์ ที่ร่ำรวยขึ้นมาจากหัวมัน

เจ้าหน้าที่ของโครงการเล่าว่า ในคราวสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นแพ้สงคราม การสู้รบยาวนานในสงครามทำให้ผู้คนในประเทศญี่ปุ่นอดอยากอยากแค้น เศรษฐีญี่ปุ่นเจ้าของธนาคารเกียวโตผู้นี้ในยุคนั้นก็เป็นชาวไร่ชาวนาที่ปลูก มัน แต่ความอดอยากทำให้เจ้าของที่ดินหลายรายในยุคนั้นเอาที่ดินมาแลกกับหัวมัน เพื่อประทังชีวิตให้อยู่รอด

หลังสงครามที่ทุกอย่างสงบ จากชาวไร่ชาวนาธรรมดาที่ปลูกหัวมัน เจ้าของธนาคารเกียวโตผู้นี้ ก็เปลี่ยนสถานภาพกลายเป็นเจ้าของที่ดินมูลค่ามหาศาล และจากเจ้าของที่ดินก็กลายมาเป็นนายธนาคารที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น

ใครจะรู้ว่า หัวมัน ที่ไร้ค่าก็สามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตคนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ !!

โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 16.30 น. มีรถนำชมและมัคคุเทศประจำรถ ให้บริการฟรี

โดยจะเก็บค่าเข้าชมคนละ 20 บาท เด็กนักเรียนในเครื่องแบบ และเด็กที่สูงไม่เกิน 130 ซ.ม. คนละ 10 บาท ส่วน พระสงฆ์ สามเณร แม่ชี นักบวช ผู้พิการ และเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ ได้รับการยกเว้นค่าบริการ

พื้นที่ที่แสนกว้างขวางและร่มรืน เราสามารถเดินชม นั่งพักได้ทั้งวัน อย่างไม่มีเบื่อ… บ้านไร่ของในหลวง รัชกาลที่ 9 ช่างสวยงาม และสร้างความสุขที่เปี่ยมล้น ให้ผู้ที่แวะมาชมเสียจริง

บทความน่าอ่านจาก http://www.emaginfo.com ร่วมกับ travel.mthai.com